To help me cope with anything..
If you see the wonder .. of a fairy tale
You can take the future .. even if you fail"
------------------------------------------
วันนี้เป็นวันเสาร์ที่เหงาๆ ใน UK อากาศยังคงมืดครึ้มเหมือนเดิม แถมยังได้รับรายงานมาว่าเชื้อโรค E. Coli เริ่มระบาดแถวเมืองที่อยู่แล้วด้วย ช่วงนี้จะทานผักดิบหรือผลไม้ ก็ระวังกันหน่อยนะคะ ที่นี่ไม่ค่อยปลอดภัยเลย อยากกลับบ้านจัง
เอาหล่ะ PhD น้อยไม่บ่นแล้ว แต่วันนี้ PhD น้อยจะพาไปเที่ยว ในที่ที่ค้างคาไว้ จากที่บอกกันว่าไป ยุโรป 17 วัน..แล้ววีซ่าเหลือ ก็เลย "จัดไป" ทั้ง Athens และ Santorini เกาะสวรรค์ แห่ง ท้องทะเล Mediterranean ค่ะ
เราเริ่มเดินทางจาก Athens โดย Subway มาลงที่ท่าเรือ Piraeus เพื่อที่จะนั่งเรือไปยังเกาะ Santorini ค่ะ เรือโดยสารไปยังเกาะ สามารถดูได้ที่ http://www.bluestarferries.gr การเดินทางไป Santorini มีวันละสอรอบค่ะ รอบเช้าสุด 7.30 กับอีกรอบประมาณ 15.00 (โดยประมาณ) ค่ะ
PhD น้อยและหมู่คณะ เลือกรอบ 7.30 am ใช้เวลาเดินทางบน ferry ใหญ่ ประมาณ 8 ชม ผ่านเกาะเล็กเกาะน้อย Andros, Syros, Tinos, Ios. Mykanos, Naxos, Paros บนท้องทะเล Aegean ..และในที่สุด ก็เดินทางมาถึง Santorini หรือ Thira ตามที่คน Greece เค้าเรียกกันค่ะ
Tips: ถ้าไปเที่ยวช่วง High Season ประมาณ May-August จองเรือไปก่อนก็ดีนะคะ กันพลาด
วิวตามเกาะต่างๆ ระหว่างทาง |
เรือออกเดินทางต่อ พร้อมสีของน้ำทะเล เมดิเตอเรเนียน |
พอนั่งเรือมาถึง ก็นั่ง Local Bus ขึ้นมาได้เลยค่ะ ค่ารถบัสประมาณ 2.2 ยูโรต่อเที่ยว มาลงในตัวเมือง Fira ซึ่งเป็นเมืองหลักของที่นี่ หรือใครจะเช่ารถขับก็ได้ ไม่แพงค่ะ เกียร์ธรรมดาราคาประมาณ 30 ยูโรต่อวัน แต่ที่นี่ขับกันมือซ้าย ก็เลยไม่ค่อยถนัดค่ะ
First glance @ Fira |
วิวด้านบน เป็นวิวที่มองจากเมือง Fira ค่ะ ซึ่งจะเห็นภูเขาไฟที่ดับแล้วอยู่กลางทะเล มุมด้านที่ติดทะเลลงไปแบบนี้และเห็นภูเขาไฟ จะเรียกกันว่า Caldera View หรือ Volcano View ค่ะ โรงแรมที่ติดด้านนี้จะแพงมาก หรือบางที่ ก็จะมีการสร้างสระว่ายน้ำ เป็น Pool Villa แบบติดหน้าผา เล่นน้ำไป มองเมติเตอเรเนียนไป มีความสุขจริงๆค่ะ ( ที่พัก PhD น้อย งบน้อยตามชื่อ..จึงไม่มีวิวแบบนี้ให้เห็นค่ะ )
Santorini's signature, with the Caldera view |
Santorini เป็นเกาะเล็กๆ ที่มีบ้านเมืองสีขาวเรียงรายอยู่ตามหน้าผาเต็มไปหมด เมืองที่ดังมีอยู่ 2 เมือง คือ Fira และ Oia (อ่านว่า "เอีย" ) ที่นี่ นอกจากจะมีชื่อเสียงของบ้านเมืองสีขาวน่ารักแล้ว (ถ้าใครเคยดู Mama Mia ก็คงจะจำกันได้โน้ะ) เมืองนี้ยังถือกันว่า เป็นเมืองที่มีจุดชมพระอาทิตย์ตก ที่สวยงามติดอันดับโลก ซึ่ง อยู่ที่ Oia ค่ะ เดี๋ยว PhD น้อยจะพาไปชมทั้งสองจุดเลยนะคะ
Tips: การเดินทางใน Santorini ถ้าจะเดินทางจาก Fira ไป Oia แล้ว สามารถทำได้โดยรถยนต์ส่วนตัว รสบัส หรือไม่ก็เช่า Scooter ขับบนเกาะได้ค่ะ
Where the Sea meets the Sun @ Fira |
มืดแล้ว..ไปหา Waffle กะ Milkshake กิน ที่ Cafe น่ารักๆดีกว่า |
ที่นั่งน่ารักมากมาย..อยากมาอีกจัง |
หมดแรง วันนี้พอแค่นี้ก่อน zzZZ..........เช้าแล้ววว อิอิ เร็วมั้ย..ไปเที่ยวกันต่อเลยค่ะ เริ่มเลย กับ โบสถ์ที่ Santorini ซึ่งมีลักษณะเด่นเป็นรูปโดมสีน้ำเงิน และ มีไม้กางเขน เป็นเอกลักษณ์อย่างนึ่งของเกาะ
วันนี้ตื่นมาพร้อมกับกล้อง Nikon D90 ค่ะ มะช่ายกล้องกิ้กก้อก G11 |
Santorini เป็นเกาะที่อยู่บนภูเขาค่ะ ต้องนั่งรถเมล์ขึ้นมา สูงมากก |
ได้เวลาไป Oia แล้วค่ะ เดียวไม่มีเวลาเที่ยวที่นู่น ต้องไปจองที่นั่งชมพระอาทิตย์ตกอีก กลับไปนั่งรถเมล์ที่ Fira Square นั่งสาย 11 ไปลงที่ Oia สุดสายเลยค่ะ
Oia, Santorini |
เหนื่อยแล้ว..นั่งกิน Milkshake ที่ Cafe กับวิวตรงหน้าที่ Oia ค่ะ |
เดินไปเดินมา..รีบๆไปจองจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดในโลก @Oia |
เดินไปถึงสุดเกาะ Oia เลยค่ะ สำหรับวิวชมพระอาทิตย์ตก จริงๆแล้วเนี่ย นักท่องเที่ยวจะนิยมไปชมกันที่ Castle View ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น the best sunset view เพราะว่าจะได้มุมที่กว้างมาก ของทะเลเมดิเตอเรเนียน แต่ PhD น้อยจะขอบอกว่า คนเยอะมากกก เหมือนไปชมกำแพงเมืองจีนอย่างไรอย่างนั้นเลย PhD น้อยก็เลยสวมวิญญาณเป็น ดญ. Santorini คอยด้อมๆมองๆดูว่า ชาวบ้าน Local เค้าดูกันตรงไหน ได้ผลว่า เค้าจะมาเร็วหน่อย มาจับจองพื้นที่ตามซอยเล็ก ซอกน้อย ตรงปลายสุดของ Oia กันค่ะ ซึ่งก็ได้ผล คนน้อย วิวสวย เงียบสงบ ได้วิวตามที่เหนค่ะ
As it claims, one of the most beautiful sunset spot of the world |
Windmills @ Sunset at Oia |
สำหรับรูปสวยๆ ใน Blog วันนี้พอแค่นี้นะคะ มิตรรัก แฟนเพลง สามารถติดตามรูปสวยๆของ Santorini ได้มากขึ้น จาก อัลบั้ม Santorini จาก page LynZie : PhD the Wanderer ใน Facebook โดย Follow link ด้านบน blog ได้เลยค่ะ
Good night ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
No comments:
Post a Comment