Sunday, June 19, 2011

London Summer sales



เรื่องของ Summer sales หรือ Winter sales ในลอนดอน

ในแต่ละปี ห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ของประเทศอังกฤษ จะจัดเซลใหญ่สองครั้งต่อปี นั่นก็คือ Summer Sales และ Winter sales 

What ? 
Summer Sales --> จะอยู่ในช่วงเดือน mid June ของแต่ละปี อย่างเช่นปีนี้ (2011) เซลล์จัดขึ้นที่ Harrods วันที่ 18 มิถุนายน 
Winter Sales --> จะจัดช่วงคริสตมาสต์ของแต่ละปี ส่วนมากเริ่มจากวัน boxing day 26 ธันวาคมของทุกๆปี
ระยะเวลาเซลล์ น่าจะประมาณครึ่งเดือนถึงหนึ่งเดือนค่ะ




Where ?
ส่วนมาก ห้างที่ได้รับความนิยมจากบุคคลรุ่นๆเรา 23-28 ปี นั่นก็คือห้าง Harrods และ Selfridges ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าใหญ่ขายสินค้าแบรนด์เนมระดับโลกกลางกรุงลอนดอน




How ?
สำหรับ Harrods ห้างจะเปิดเก้าโมงเช้า สำหรับ Summer Sales ของ Brandname ส่วนมากที่ได้รับความนิยมคือ Gucci ซึ่งจะนำมาเซลล์ในราคา 30-50% สำหรับ Gucci ที่นี่เวลาเซลล์จะเซลล์จริงๆ นำของสวยมาเซลล์ แต่ในจำนวนจำกัด นั่นหมายถึง มาก่อนได้ก่อน ส่วนแบรนอื่นที่เซลล์แล้วสวยคือ Mulberry ที่คนเข้าก็เยอะค่ะ และ MiuMiu ก็จะต้องนับ season เอาเองว่ารุ่นไหนเซลล์ และส่วนมากรุ่น classic ของแต่ละ Brand จะไม่เคยนำมาเซลล์ค่ะ (ส่วน LV ไม่เคยเซลล์ค่ะ เพราะฉะนั้นไม่ต้องมาเข้าคิวรอนะคะ)

Gucci Tips : ถ้าอยากได้ของสวยจริงๆ มีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องมาเข้าคิวรอค่ะ ต้องมาเข้าคิวตั้งแต่ 6.00 โมงเช้า เพื่อรอห้างเปิดตอน 9.00 โมงเช้า เค้าจะแจกบัตรคิว และเค้าจะมีประตูเข้าสำหรับ Gucci เท่านั้นค่ะ ถ้าอยากได้จริงควรมาเป็นคิวเช้าๆ เพราะเค้าจะจำกัดปริมาณคนเข้าในแต่ละครั้ง ซึ่งหมายความว่าถ้าเราได้คิวกลางๆ เราก็จะพลาดโอกาสในการไปคว้าของจาก Brand อื่นๆ เช่น Mulberry, Burberry, หรือ MiuMiu ค่ะ

ของสวยส่วนมาก จะหมดไปภายใน 10-20 นาทีแรก (ซึ่ง 70% ของทั้งหมด น่าจะมาจากคนไทย เด็กไทย ใจกล้าหาญอย่างเรานี่ล่ะคะ ภูมิใจนะเนี่ย 555 เนื่องจากเด็กไทยอย่างเราๆ ก่อนมาจะมีการศึกษาหาข้อมูลมาค่ะว่า จะเอาอะไร มี potential ในการเซลล์หรือไม่) ส่วนใครที่ค่อยๆตื่น แล้ว 10 โมง 11 โมง ค่อยมาห้าง แนะนำว่าถ้าจะซื้อกระเป๋าสวย ไม่ต้องมาแล้วค่ะ ต้องรอรอบหน้าแล้ว รอบนี้ เราไม่ได้ไปต่อแถวค่ะ เพราะไม่อยากตื่นเช้ามาก และถือคติว่าอะไรจะเป็นของเรามันก็เป็นของเรา ก็เลยมาถึงห้างประมาณ 8.45 ก่อนห้างเปิด 15 นาทีค่ะ เข้าไปตอนแรกก็ไปดู MiuMiu แต่เซลล์ครั้งนี้ไม่สวย ก็เลยไปดู Mulberry แบบไม่ตั้งใจ คนเยอะมากค่ะ แต่ด้วยความที่อะไรมันจะเป็นของเราก็ต้องเป็นของเรา เลยได้น้อง Alexa สีขาว Oversized มาหนึ่งใบเซลล์ 30% จากราคาเต็มค่ะ พอกลับมาถึงบ้าน แอบเข้าไปดูใน website เพิ่งรู้ว่าตัวเองได้ใบที่สวยที่สุดใน sales มา (ในความคิดเรา) รู้สึกดีใจเล็กน้อยกับความเป็นทาสของกระเป๋าค่ะ ฮ่าๆ

ส่วนสินค้าของ Harrods ก็เซลล์ค่ะ ถ้าใครชอบซื้อกะเป๋า harrods เป็นของฝาก แนะนำให้มาซืื้อในช่วง Sales ค่ะ จะได้ของสวยและดีกลับบ้าน นี่ค่ะ เราซื้อ Towel tea, Body Powder, แล้วก็ผ้ากันเปื้อนมาค่ะ สามอย่างในราคา 18 ปอนด์ค่ะ





Shopping เสร็จแล้ว ได้เวลากลับบ้าน แวะ Patisserie Valerie สาขา Leicester Square ดื่มน้ำชาและทานเค้กนิดหน่อยก่อนกลับบ้าน..รู้สึกดีแล้วค่ะ 555





ส่วนอันนี้เป็นหน้าตา cake หลากหลาย จากที่ร้านค่ะ 





หมดแล้วค่ะ เอาไว้เจอกันโอกาสหน้า ^_^





แกงเขียวหวาน



.... ว่าด้วยเรื่องของการทำแกงเขียวหวานของแม่ครัวเมืองนอก .. เราก็ต้องใช้วัตถุดิบที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ .. วันนี้ เราจะมาทำแกงเขียวหวานสูตรบ้านเรา ที่อร่อยไม่เหมือนใคร ^_^ 


ปล. เนื่องจากเราได้ไอเดียมาจากเชฟหมีครัวกากๆ เราก็เลยไม่ได้มีการวัดปริมาณของเครื่องปรุงแบบพอดีๆ ทุกสิ่งๆทุกๆอย่าง ล้วนเกิดขึ้นจากการกะเอา แบบพออร่อย :)


เครื่องปรุง
1. หมู หรือ เนื้อไก่ จะติดกระดูกหรือไม่ติดกระดูกก็ได้
หมู...นำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ


2. เครื่องแกงเขียวหวานสามสหาย ..เครื่องแกงเขียวหวาน กะปิ และ กะทิ จะบอกให้ว่าเคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่ใส่กะปิลงไปด้วยตอนผัดเครื่องแกง..
Tips : ถ้ามีนมสด ให้เตรียมไว้ประมาณครึ่งถ้วย เอาไว้ใส่ตอนใกล้จะเสร็จ


เครื่องแกงเขียวหวานแม่พลอย..กะปิแม่ประนอม..และกะทิชาวเกาะ
Tips : ถ้าเป็นกะทิชาวไร่ จะใช้ไม่ได้นะ อะฮิ้ววว


3. มะเขือ ใบโหระพา และพริกชีฟ้าแดง


แอบใสใส้กรอกไปด้วย..
พริกชี้ฟ้าแดง


แอบใส่ ไส้กรอกลงไป เพราะว่าไม่อยากกินหมูกันเยอะ...


วิธีทำ
ในกะทะ
1. นำเครื่องแกงประมาณสองช้อนโต้ะ มาผัดกับกะปิ ครึ่งช้อนโต้ะ
2. ค่อยๆใส่หัวกะทิลงไปผัดพร้อมๆกันกะเครื่องแกง ( กะทิส่วนบนของกะป๋อง ในกรณีนี้) ใส่ทีละช้อนสองช้อน ผัด ผัด ผัด จนรู้สึกว่าเครื่องแกงเริ่มแตกมัน
Tips : วิธีดูก็คือ มันจะเริมหอมๆ มันๆ และมีฟองๆปุดๆขึ้นมาระหว่างผัด
3. ใส่เนื้อหมู ลงไป ผัดซักสองสามนาที จนเกือบสุก ระหว่างนั้นก็ยังใส่กะทิลงไปอีกช้อนสองช้อน
ในหม้อ
4. นำกะทิครึ่งล่างของกะป๋อง มาใส่น้ำอุ่น แล้ว ต้มด้วยไฟปานกลาง
5. พออุ่นๆ ก็ใส่มะเขือลงไป ต้มต่อจนมะเขือเริ่มสุก
6. นำสิ่งที่อยู่ในกะทะ มาใส่ลงไป แล้วเพิ่มไฟให้แรงแปปนึง
7. คนให้เครื่องปรุงทั้งหมดเข้ากัน ใส่น้ำปลา และน้ำตาล ปรุงลงไปให้รู้สึกว่าอร่อย
8. พอเริ่มสุก ให้ใส่พริกชี้ฟ้าลงไป ตอนนี้ปรับเป็นไฟปานกลาง
9. ปล่อยให้เดือด และค่อยๆคน ด้วยไฟปานกลางไปต่อประมาณ 10 นาที
Tips : ถ้าตอนนี้รู้สึกว่ายังขาดความเข้มของเครื่องแกง ให้ใส่เครื่องแกงลงไปอีกประมาณครึ่งช้อน กะปิอีกนิด และปรุงเค็มด้วยน้ำปลา หวาน ด้วยน้ำตาล เผ็ด ด้วยพริกแห้งตำ ตามชอบใจ
10. ใส่นมสดลงไป ... เป็นเคล็ดลับของแกงเขียวหวานนมสด
11. ใส่ใบโหระพาลงไป แล้วปล่อยให้เดือด ด้วยไฟปานกลางอีกประมาณ 5-10 นาที


ทา..ด้า... ได้แล้ว แกงเขียวหวานสูตรแม่ครัวจำเป็น อร่อยลืมประเทศไทยลงไปเลย
Tips : เพื่อให้เกิดความสร้างสรรค์ ใส่ไข่ต้มลงไปเลย เพราะแกงเขียวหวานต้องกินกะไข่ต้ม อิอิ




เมนูง่ายๆ ที่ใครๆก็คิดว่ายากค่ะ ขอขอบคุณกิ๋มจุ้ สำหรับสูตรอาหาร ม่าม้า สำหรับไอเดียไข่ต้ม และ Wynnie สำหรับการหั่นและปอกทั้งหมด ^_^ เจอกันโอกาสหน้าค่ะ

Thursday, June 16, 2011

Warwickhire


สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับทุกคนเข้ามาสู่บ้านของ LynZie นะคะ


เกิดมาเป็นคน ไม่อับจนหนทาง เราต้องรู้จักทำความดีกันเข้าไว้นะคะ


มาเริ่มกันเลยดีกว่า หลังจากนี้ LynZie จะพาเที่ยวไปในเมืองต่างๆที่ตัวเราได้มีโอกาสได้ไป
blog นี้อาจจะมีประโยชน์บ้างไม่มีประโยชน์บ้าง แต่ก็จะพยายามทำให้มีประโยชน์ในโอกาสต่อๆไปนะ

ตัวเราเรียนหนังสืออยู่ประเทศอังกฤษ พอถึงเวลาว่าง จึงได้มีโอกาสเดินทางไปนู่นมานี่บ่อยยิ่งนัก จะมาเขียน Blog นี้ ก็เพราะว่าอยากแบ่งปัน ความทรงจำ, Tips ดีๆในการเดินทาง เพื่อเล่าสู่กันฟัง ก็ไม่ค่อยได้หวังว่ามันจะเป็น Proper Review ซักเท่าไหร่ แต่ว่าถ้าใครอยากรู้เรื่องราว เบื้องลึก ก็สามารถ email กันมาถามหรือฝากข้อความไว้ได้ เราก็จะแบ่งปันข้อมูล ตามที่เรารู้ ด้วยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า มันคงจะมีประโยชน์กะทุกๆคนนะคะ 

รูปแรก บรรยากาศแบบอังกริ้ด อังกริด เมื่อเรากลับมาถึงอีกรอบในปี 2010
ที่นี่เป็นเมืองชื่อ Warwickshire ค่ะ เป็นเมืองที่อยู่ใน West Midlands ของประเทศอังกฤษ ในเมืองมีสิ่งน่าสนใจคือ Warwick Castle


นี่คือบรรยากาศในเมืองอีกรูปค่ะ ไม่น่าเชื่อว่าเมืองนี้ ยังมีกลิ่นอายแห่งความเป็นอังกฤษสูงมาก ถนน บ้านเมือง ดูเหมือนในเทพนิยาย เป็นเมืองเล็กๆ ไม่มีคนไทยอยู่เลยค่ะ


ส่วนอันนี้ เป็นหน้าตาของ Warwick Castle ค่ะ มีลักษณะเป็น Live castle โดยส่วนตัวแล้วคิดว่า เป็น Castle ที่เข้าไปแล้วคุ้มที่สุดใน อังกฤษแล้วค่ะ ^^

อันนี้คือด้านในค่ะ
เห็นมั้ยเจอท่านอองดินด้วย 

อันนี้คือ State Apartment ด้านในค่ะ



มี Knight ด้วยนะ

อันนี้ท่าจะหลงมาจาก Harry Potter นะ



เค้าคุยอะไรกันน่ะ อยากรู้อยากเห็นจัง ( แต่พอดีฟังไม่ออก อิอิ)
วันนี้ไม่ไหวแล้วง่วงนอนมาก..ลากันไปด้วยทริปดีๆจาก Warwick Castle นะคะ แล้วเดี๋ยวคราวหน้า จะมาพาไปเที่ยวใหม่น้า .. Good night world ราตรีสวัสดิ์ค่ะ